ตำรวจสืบสวนบางเสาธง ปูพรมลงพื้นที่ต้องสงสัยในรัศมี 10 กิโลเมตรจากจุดที่พบศพหญิงวัยรุ่นถูกถ่วงน้ำในคลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดตรวจค้นห้องเช่าในชุมชนคลองอ้อม หลังมีหญิงคนหนึ่งมาแจ้งว่า สงสัยศพที่พบจะเป็นหลานสาวของตัวเอง ขณะที่การตรวจค้นห้องเช่าดังกล่าวไม่พบเจ้าของห้อง ชาวบ้านระบุว่า เพิ่งย้ายออกไปก่อนวันพบศพ และครอบครัวนี้มีพฤติกรรมทำร้ายลูกสาววัย 11 ปีด้วย

loading...

วันนี้ (13 มิ.ย. 60) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบางเสาธง นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องเช่าต้องสงสัยในชุมชนคลองอ้อมใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจาก ท่าเรือร้างที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นจุดฆาตกรรมเด็กหญิงวัยประมาณ 13-15 ปี และนำศพมาทิ้งเพียง 300 เมตร จากการตรวจค้น ไม่พบบุคคลในบ้าน ข้าวของถูกย้ายออกไปจนหมด

จากการสอบสวนชาวบ้านใกล้เคียง ให้การว่าห้องเช่านี้มีผู้อาศัยอยู่ 3 คน คือ แม่ ลูกสาววัย 11 ปี และพ่อเลี้ยง ซึ่งพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมชอบทำร้ายลูกสาววัย 11 ปี เป็นประจำ โดยชาวบ้านแถบนี้ไม่พบเห็นเด็กหญิงคนดังกล่าวมานานกว่า ครึ่งเดือนแล้ว เมื่อสอบถาม พ่อแม่ของเด็กบอกว่า ย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด และวันพบศพ ทั้ง 2 คน ย้ายออกจากบ้านเช่าไป

ส่วนญาติที่มาตามหาหลานของตัวเองที่บ้านเช่าดังกล่าว ตำรวจได้คุมตัวไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับศพแล้ว และเร่งติดตามตัว สองสามีภรรยาเจ้าของห้องเช่าดังกล่าวมาสอบปากคำ หลังพบว่า หายตัวไป ไม่ไปทำงาน ตั้งแต่เกิดเหตุ

ขณะที่การตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตไม่ตรงกับลายนิ้วมือของบุคคลสัญชาติไทยในระบบฐานข้อมูลของทะเบียนราษฎร์ อาจเป็นไปได้ว่ายังไม่ทำบัตรประชาชน นอกจากนี้ตำรวจยังลงพื้นที่ เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตรองเท้าและห้องพักคนงานแห่งหนึ่งภายในซอยมุมไม้ ตำบลบางเสาธง เนื่องจากเป็นบริษัทเดียวในละแวกที่พบศพ และพบว่าถุงข้าวสารในโรงงานเป็นยี่ห้อเดียวกับที่คนร้ายใช้บรรจุก้อนหิน หอพักและโรงงานแห่งนี้อยู่ห่างจากจุดที่พบศพรวมถึงศาลารอผู้โดยสารร้างที่เจ้าหน้าที่พบกองไฟและเชือกคล้ายกับเชือกผูกศพถ่วงน้ำด้วย

ตำรวจได้คุมแรงงานต่างด้าว ชาย-หญิง รวม 22 คน ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสมุทรปราการ ทำการตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อหาวัตถุพยานเชื่อมโยงคดีด้วย
Cr:http://www.sanook.com/hot/