loading...
เมื่อเวลา 15.30 วันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศและความคืบหน้า จากกรณี ศพพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ (พระมหายนต์ พุทธสโล ) อดีตเจ้าอาวาสวัดศิริมงคล บ้านหนองหญ้าปล้อง ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร อดีตเจ้าคณะอำเภอพังโคนมรณภาพลง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2560 ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาการเปรียญภายในวัด โดยบรรจุไว้ในโลงเย็น ตั้งอยู่ด้านหลังโลงศพใหญ่ เพื่อรอการพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 22 เม.ย. ที่จะถึงตามกำหนดการเดิม แต่เมื่อเปิดโลง ในคืนวันที่ 19 เม.ย ปรากฏว่าศพหายไป พบเพียงหมอ 3 ใบ มีจีวรคลุมไว้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าศพหายไปไหน ใครเอาไปทำอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้ (21 เม.ย.) ในบริเวณวัด
ชาวบ้านยังคงมาช่วยกันทำงาน ด้านบริการพระสงฆ์และชาวบ้านที่มาร่วมงาน
ทำบุญตักรบาตร เป็นปกติ โดยนั่งจับกลุ่มคุยกัน
และหากเมื่อคนแปลกหน้าเดินเข้าไปหา จะหยุดเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
และหากมีคนถามส่วนใหญ่จะบอกว่า
ไม่ทราบเรื่องและว่าไม่เคยเห็นว่าเกิดขึ้นอย่างไร หาถามความรู้สึกก็บอกว่า
เสียใจ มาก จะทำอะไรก็ไม่ควรนำสรีระของท่านไป
ขณะนี้ผลที่เจ้าหน้าที่ทั้งสามชุดให้น้ำหนักไปที่ประเด็น ความโกรธส่วนตัว
จากการสอบสวนและเรียกฝ่ายต่างๆมาสอบเพื่อรวบรวมหลักฐานเชื่อมไปยังกลุ่มบุคคล
โดยน้ำหนักไปที่ การประกันชีวิตของท่านเอง
ทราบว่ามีการทำประกันชีวิตให้กับญาติหลายคนและไม่ใช่ญาติ จนเป็นเหตุให้
มีการลักลอบนำศพออกไปเพื่อผลทางการจ่ายเงินของประกันที่อาจติดเงื่อนไขการเผาศพไม่ได้ก็จะไม่สามารถรับเงินประกันได้
จึงเป็นอีกประเด็นที่มีน้ำหนักให้มีการลักศพไปทำลาย
ในส่วนของคนที่เสียประโยชน์และโกรธเคือง
และที่เป็นปัญหาก็คือใครเป็นผู้ขโมยศพและศพหายช่วงไหนนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงดังกล่าวมีชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนมาร่วมงาน
และได้กลิ่นเหม็น ใกล้กับพื้นศาลา ถึงกับขนหัวลุก
มีกลิ่นเหม็นและคิดว่าจะเป็นที่ซ่อนศพ จึงได้มีการให้ทุบเพื่อตรวจสอบ
แต่ไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปสอบถามกับ พระครูประจักษ์สิทธิธรรม
เจ้าอาวาสวัดนาเวง ต.ธาตุนาเวง อ.เมืองสกลนคร
ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอพังโคน
แทนพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ที่มรณภาพว่า ในรายละเอียดไม่ทราบเป็นอย่างไร
เพียงแต่เข้าไปกำกับในเรื่องการปกครองเท่านั้น รายละเอียดก็ไม่มี
เงินในวัดเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ เพราะเขาจัดการกันเอง
และได้เคยถามถึงทรัพย์สินของท่านว่าไม่มีอะไร ก็ไม่สนใจ
ก็รอแต่จะดำเนินการเผาศพเท่านั้น และก่อนหน้านั้นมีโยมมาบอกว่า
ทรัพย์สินของท่านพระครู มีรถตู้ 1 คันที่ใช้บริการรับพระและใช้ในวัด
หลังจากท่านมรณะภาพไปก็ทราบว่ามีการขายไปแล้วประมาณ 150000 บาท
แต่ก็ไม่ได้สอบถามว่าใครขายเงินใครเอาไป เพราะเป็นเรื่องของเขาจึงไม่ยุ่ง
ส่วนประเด็นก็มีพระอยู่ในวัด
ถ้าคนร้ายมาทำก็น่าจะฉวยโอกาสตอนไม่มีใครอยู่ในวัด และก็มีคนไม่น้อยกว่า
3-4 คนจึงนำไปได้ ที่สำคัญทำเพื่อต้องการอะไรเท่านั้น
ตนก็ยังนึกหาสาเหตุไม่ออก
ส่วนที่ถามกันว่าท่านมีพินัยกรรมเกี่ยวกับสมบัติหรือไม่ แต่ไม่น่ามี
เพราะไม่
Cr:http://newsdodai.blogspot.com/
0 comments:
Post a Comment