loading...
จับแล้ว!! เพื่อนร่วมห้องรู้เห็นเหตุการณ์ พ่อเลี้ยงทำร้าย2ขวบตับแตกดับสลด น้องวอนพี่สาวกลับดูหน้าลูกครั้งสุดท้ายก่อนเล่าความจริง อย่าเรียกว่าคน!ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับพ่อเลี้ยงและเพื่อนร่วมห้องพักร่วมกันร่วมกันทำร้าย ด.ช.ระพีภัทร จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เบื้องต้นเพื่อนยังให้การปฏิเสธอ้างออกจากห้องพักไปก่อนเด็กถูกทำร้าย แต่รับเป็นผู้ขับรถไปรับพ่อเลี้ยงกับแม่จากโรงพยาบาลไปส่งขึ้นรถยนต์โดยสารไปต่างจังหวัด ซึ่งชุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่าและกระจายหมายจับไปตามจังหวัดต่างๆ ที่คาดว่าพ่อเลี้ยงที่ก่อเหตุไปกบดานอยู่
จากกรณีนายจิรันตน์ ปันสวน อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงนำร่างหมดสติของ ด.ช.ระพีภัทร สาแล๊ะ อายุ 2 ขวบเศษ ส่งให้แพทย์โรงพยาบาลเอกชนช่วยเหลือ โดยอ้างว่าเด็กจมน้ำจนเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุมีข้อสงสัย ส่งศพให้แพทย์นิติเวชผ่าพิสูจน์พบว่า เด็กถูกทำร้ายจนตับอ่อนแตกและมีเลือดคั่งในสมอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าบรรยากาศการตั้งศพบำเพ็ญกุศล ด.ช.ระพีภัทร สาแล๊ะ อายุ 2 ขวบเศษ ที่บ้านหมู่บ้านเพี้ยเพ้า ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มีเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาร่วมงาน โดยต่างกล่าวถึงความรุนแรงที่นายจิรันตน์ ปันสวน อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงทำกับ ด.ช.ระพีภัทร
ซึ่งญาติบางคนก็เล่าว่า เวลานายจิรันตน์ พ่อเลี้ยงมารับเด็กไปนอนที่หอพัก บางครั้งเด็กมีอาการหวาดผวา แต่ขัดขืนไม่ได้ สำหรับศพ ด.ช.ระพีภัทร จะฌาปนกิจในช่วงบ่ายวันนี้ ที่วัดธรรมนิมิตรของหมู่บ้าน
ด้าน น.ส.ธิดาวรรณ สมบูรณ์ อายุ 21 ปี น้าสาวของเด็กน้อยผู้เสียชีวิตกล่าวเรียกร้องให้นางธิดารัตน์ หรือ ยุ้ย สมบูรณ์ พี่สาวที่เป็นมารดาของ ด.ช.ระพีภัทร ออกมาพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อเล่าความจริงที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่านางธิดารัตน์ ไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี หัวชุดสืบสวนในคดีนี้กล่าวว่า หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักนายจิรันตน์ ซึ่งพักอยู่กับนายสุวิชาญ อองดา อายุ 23 ปี อยู่หมู่ 6 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด ในซอยบ้านนาควาย หรือ สุขาสงเคราะห์ 9 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี
โดยพบกับนายสุวิชาญ ซึ่งให้การว่า ก่อนเด็กเสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์พานายจิรันตน์ไปรับเด็กมาจากบ้านในอำเภอวารินชำราบ เพื่อมาพักอยู่ที่หอพักที่ทั้งสองพักอยู่ด้วยกัน โดยนายจิรันตน์และเด็กจะนอนอยู่บนพื้นข้างเตียง ส่วนนายสุวิชาญจะนอนอยู่บนเตียงคนเดียว และบางครั้งก็เห็นนายจิรันตน์กับเด็กอาบน้ำด้วยกัน
ส่วนวันเกิดเหตุนายสุวิชาญ อ้างว่าออกจากห้องพักไปทำงานตั้งแต่เวลา 09.00 น.เศษ จึงไม่รู้เห็นระหว่างเด็กถูกทำร้าย แต่ยอมรับได้ขับรถยนต์ไปรับนายจิรันตน์จากโรงพยาบาลไปส่งที่สถานีขนส่งรถยนต์โดยสาร โดยไม่ทราบว่านายจิรันตน์และนางธิดารัตน์แม่ของเด็กซื้อตั๋วรถไปที่จังหวัดไหน เพราะหลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกันเลย
จากการรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อม ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่า นายสุวิชาญมีส่วนรู้เห็นช่วงที่เด็กถูกทำร้ายด้วย เพราะช่วงเวลาที่เด็กเสียชีวิตใกล้เคียงกับเวลาที่นายสุวิชาญยังคงอยู่ในห้องพัก และมีส่วนสนับสนุนให้นายจิรันตน์หลบหนี จึงได้นำพยานหลักฐานไปขอให้ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับนายสุวิชาญ เลขที่ จ.123/2560 ลงวันที่ 7 พ.ค.2560 และออกหมายจับนายจิรันตน์ เลขที่ จ.122/2560 ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
เบื้องต้นนายสุวิชาญให้การปฏิเสธ จึงคุมตัวเข้าห้องควบคุม พร้อมกระจายหมายจับตัวนายจิรันตน์ไปยังแหล่งที่คาดว่านายจิรันตน์กับนางธิดารัตน์ มารดา ด.ช.ระพีภัทร ที่เสียชีวิตไปหลบซ่อนอยู่ในต่างจังหวัด
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหอพักยังพบหนังสือกฎหมายที่นายสุวิชาญไฮไลต์ตรงข้อความมาตรา 189 ซึ่งกล่าวถึงการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายสุวิชาญอ้างว่าอยู่ระหว่างเรียนคณะนิติศาสตร์กับมหาวิทยาลัยทางไกลแห่งหนึ่ง จึงนำออกมาอ่านเตรียมสอบด้วย
Cr:http://siamlikenews.com
0 comments:
Post a Comment